ข่าวเกม Teslagrad 2

ข่าวเกม Teslagrad 2 ภาคต่อที่มาพร้อมกับระบบการเล่นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

ข่าวเกม Teslagrad 2 ภาคต่อของเกมอินดี้ขึ้นชื่อในปี 2013 ได้ทำการเปิดตัวออกมา ให้เราได้เล่นกันเป็นที่เรียบร้อย ผลงานล่าสุดจากทีมงาน Rain Games มาพร้อมกับระบบการเล่น ที่ไม่ได้ยึดติดกับ การใช้งานสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ในรูปแบบเดียวอีกต่อไป แต่มีการนำเสนอรูปแบบใหม่ อย่างการนำมาใช้สร้างพื้นที่โดยรอบแทน ในเกมเราจะได้เห็น การนำเสนอรูปแบบการเล่นใหม่แต่ยังคงเอาไว้ซึ่ง ความสนุกที่คุ้นเคยจากในอดีต ว่าแต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง เราไปดูกันเลย เกมเพลย์โดยหลักของ Teslagrad 2 นี้โดยรวมไม่ต่างจากภาคแรกครับ นั่นคือยังคงเป็นเกมแอ็กชันแพลตฟอร์ม 2D ที่เน้นหนักไปด้านการแก้ปริศนาแบบ environmental puzzle ที่เกือบทั้งเกมคุณจะต้อง สังเกตสภาพแวดล้อมแล้วคิดหาทางไปต่อ ด้วยความสามารถต่าง ๆ ที่มี และก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคอนเซปต์ของ “แม่เหล็ก” ยังคงมีอยู่ตามเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งการที่ทั้งเกมจะมีหินสีแดง และหินสีน้ำเงิน ที่คุณจะดูดตัวเองหรือ ดีดตัวเองออกมาได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณสร้างคลื่นสีแดง หรือสีน้ำเงินมาคลุมตัว สีเดียวกันจะผลักกันแต่ต่างสีกัน จะดูดเข้าหากันตามหลักการของแม่เหล็กขั้วบวก และขั้วลบครับ

เกมในภาคล่าสุดถือว่ามีข้อแตกต่างจากภาคแรกอย่างชัดเจน

การมาถึงของเกมในภาคล่าสุด ถือว่ามีข้อแตกต่างจากภาคแรกอย่างชัดเจน และมันค่อนข้างที่จะกลายเป็นความร่วมสมัยเหมือนกับเกมแนว แพลตฟอร์มอื่นอยู่ไม่น้อย ผู้เล่นจะได้เดินทางเข้าไปในภูมิประเทศนอร์ดิกที่แตกต่างจากภาคแรกอย่างสิ้นเชิง ฉากต่าง ๆ ในเกมจะดูมีสีสัน และสดใสอย่างมาก เป็นการรวมโลกระหว่างสตีมพังค์กับ ชาวนอร์สเข้าด้วยกัน และยังคงเอาไว้ซึ่งสิ่งที่ เป็นมาอย่างการบอกเล่าด้วยเรื่องราวจากการกระทำของตัวละครแทนที่จะใส่คำพูดใด ๆ เข้าไป จุดเด่นของ Teslagrad ที่ยังถูกนำมาใช้งานในเกมภาคล่าสุดเป็นเรื่องของการใช้พลังงานแม่เหล็กเพื่อที่จะเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ภายในเกม รวมไปถึงการช่วยในการสำรวจพื้นที่แต่ละด่าน แต่เมื่อเราเล่นไปสักพักจะพบว่ามีการนำเสนอรูปแบบการใช้พลังงานที่แตกต่างไปจากเดิมคือเรื่องของการสไดล์ไปกับพื้นผิวด้วยความเร็วสูงจากการใช้พลังงานแม่เหล็กมาเป็นตัวช่วย ส่งผลให้รูปแบบการเล่นของเราออกมาค่อนข้างที่จะเร็วหากเทียบกับเกมก่อนหน้า เหตุการณ์แต่ละอย่างภายในด่านจะออกมาค่อนข้างเร็วในเรื่องของความสนุกต้องยอมรับว่าแปลกตาไปจากเดิมและต้องอาศัยความเข้าใจเล็กน้อย การพัฒนาที่แตกต่างออกไปทำให้เราได้เห็นการนิยามเกมนี้จากทางทีมงานว่าเป็นแนว Metroidvania แต่ส่วนตัวแล้วอาจจะบอกว่าเป็นการนำมาใช้งานที่ดูจะไม่ค่อยเข้ากันเสียเท่าไหร่ ด้วยระบบการเล่นของ Teslagrad 2 เน้นรูปแบบที่ค่อนข้างรวดเร็วแตกต่างจากภาคแรกที่มีการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้พักบ้าง เรียกว่าโทนการนำเสนอดูจะเน้นการพุ่งไปข้างหน้าเสียมากกว่าที่จะย้อนกลับไปสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ รวมไปถึงการเก็บไอเท็มเพื่อที่จะได้มาซึ่งพลังใหม่ แต่ถ้าไม่ได้คิดมากจนเกินไปก็ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินกับการสำรวจได้เช่นกัน

จุดเด่นอย่างการต่อสู้กับบอสยังทำออกมาได้ดี

จุดเด่นอย่างการต่อสู้กับบอสยังทำออกมาได้ดี และน่าจะท้าทายผู้เล่นได้พอสมควร ขณะเดียวกันงานภาพที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นได้ค่อนข้างดี เสียงประกอบต่าง ๆ ถูกใส่เข้ามาอย่างลงตัวไม่มีจุดที่ทำให้รู้สึกขัดใจในแง่ของบรรยากาศภายในเกมที่เราจะได้รับระหว่างการเล่น โดยรวมแล้ว Teslagrad 2 เป็นเกมแพลตฟอร์มที่เล่นได้สนุกการนำเสนอรูปแบบการเล่นใหม่ที่เน้นความรวดเร็วเข้ามา ส่งผลให้เกิดความแตกต่างจากภาคก่อนชัดเจน การนำเสนอรูปแบบพลังที่นำไปใช้งานแบบใหม่ทำให้เกิดมิติการเล่นที่หลากหลายขึ้น งานภาพที่ออกมาในโทนที่มีสีสันกว่าเดิมเป็นมิตรกับผู้เล่นทุกคนได้ดี เป็นอีกหนึ่งแนว Metroidvania ที่ไม่ควรพลาด

ข่าวเกม Teslagrad 2 เนื้อเรื่องของเกม

Teslagrad 2 จะบอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวผู้หนึ่งซึ่งบังคับยานเหาะโดยลำพัง เป้าหมายของเธอก็คือ การกลับบ้านไปหาครอบครัว และเธอก็มักหยิบภาพถ่ายรวมของครอบครัวมาดูตลอดเวลา แต่ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อได้มีกองยานขนาดใหญ่ไล่ตามเธอมา บรรดาทหารบนยานนั้นได้ระดมยิงโจมตียานของเธอจนเสียการทรงตัว จนในที่สุดยานของเธอก็ตกลงด้านล่าง โชคดีที่เธอยังรอดชีวิตมาได้ แต่ว่าในดินแดนเวิร์มเฮม (Wyrmheim) ที่เธอไม่คุ้นเคยแห่งนี้ เธอจะต้องหาทางเอาตัวรอดจากการไล่ล่า รวมถึงหาวิธีกลับบ้านเพื่อกลับไปเจอครอบครัวอันเป็นที่รักของเธอให้ได้ สำหรับการบอกเล่าเรื่องราวใน Teslagrad 2 นี้ ยังคงดำเนินตามแบบฉบับของเกมภาคแรกครับ นั่นคือใช้วิธีการเล่าแบบไม่เล่า เช่นเคยที่ตลอดทั้งเกมจะไม่มีบทสนทนา ไม่มีเสียงพากย์ สิ่งต่าง ๆ ยังคงเล่าด้วยภาพประกอบและสภาพแวดล้อมที่เราได้พบเจอ (อันที่จริงตลอดทั้งเกมมีข้อความสลักบนผนังหินให้อ่านนะ แต่เหมือนจะเป็นภาษารูน…ที่ผมอ่านไม่ออก) และก็เช่นเคยครับที่ภาคนี้ยังมีการ์ดต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายไปทั่วเกมให้ตามเก็บ ซึ่งในการ์ดก็จะเป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปก่อนเกิดเหตุการณ์ในเกมให้ผู้เล่นได้รับรู้กัน ถ้าคุณชอบสไตล์การเล่าของภาคแรก ในภาคนี้คุณก็จะชอบเหมือนเดิมแน่ ๆ